สินเชื่อเพื่อการเช่าแบบลีสซิ่ง/เช่าซื้อสำหรับเครื่องจักรและรถยนต์

ประเภทการให้บริการ

เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิต

หรือทดแทนเครื่องจักรเก่า ทางธนาคารยูโอบี ได้มีบริการสินเชื่อเพื่อเครื่องจักรและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ดังนี้

1) ให้บริการสินเชื่อเช่าแบบลีสซิ่ง (Leasing) และเช่าซื้อ (Hire Purchase) สำหรับซื้อเครื่องจักรกับผู้ขายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยบริการเปิด L/C เพื่อนำเข้าเครื่องจักรจากผู้ขายต่างประเทศ ด้วยอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขสุดพิเศษ

2) กรณีเครื่องจักรเก่าที่ผู้ขอสินเชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่แล้ว ท่านสามารถมาขอสินเชื่อกับธนาคารได้ในรูปแบบของการขายและเช่า(หรือเช่าซื้อ)กลับคืนไป (Sales & Lease/Hire-Purchase Back) โดยธนาคารจะเข้าไปซื้อเครื่องจักรในราคาประเมินจากท่านโดยตรง หลังจากนั้นท่านสามารถชำระค่าเช่า/ค่างวดให้แก่ธนาคารในรูปของการเช่า/เช่าซื้อจนถึงสิ้นสุดสัญญาเช่า/เช่าซื้อ วิธีการนี้ท่านจะได้รับเงินเพื่อใช้ขยายกิจการหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยที่ยังสามารถใช้เครื่องจักรทำการผลิตเพื่อก่อให้เกิดรายได้ได้เหมือนเดิม

ทรัพย์สินที่ให้บริการ

  • ทรัพย์สินประเภทรถยนต์ เช่น รถยนต์นั่ง รถกระบะ รถบรรทุก รถหัวลาก(+พ่วง) รถตู้

  • ทรัพย์สินประเภทเครื่องจักร เช่น เครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ  เครื่องฉีดพลาสติก เครื่องจักรหรือเครื่องมือที่ใช้ในงานก่อสร้าง เครื่องพิมพ์ เครื่อง X-ray เครื่องมือ แพทย์ รถยก อุปกรณ์สำนักงาน  เป็นต้น

คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ

ธนาคารจะพิจารณาลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจ โดยมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้


สำหรับลูกค้านิติบุคคล

  1. ดำเนินธุรกิจมาอย่างน้อย 3 ปี

  2. มีประวัติทางการเงินที่ดีและไม่อยู่ระหว่างการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆ

สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา

  1. ดำเนินธุรกิจมาอย่างน้อย 5 ปี และมีเอกสารประกอบการดำเนินธุรกิจ

  2. ต้องเป็นสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เป็นทรัพย์สินที่ลงทุนและ

    ก่อให้เกิดรายได้ (ยังไม่มีบริการสินเชื่อเช่าซื้อเพื่อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลให้แก่บุคคลธรรมดา)

เอกสารเบื้องต้นประกอบการพิจารณา

เอกสาร

ผู้กู้

ผู้ค้ำประกัน

นิติบุคคล

บุคคล ธรรมดา

นิติบุคคล

(เฉพาะกรณีถ้ามี)

บุคคล ธรรมดา

1. สำเนาหนังสือรับรองบริษัท พร้อมวัตถุประสงค์ (ไม่เกิน 90 วัน)

/

/

2. สำเนาใบทะเบียนการค้า/ ใบทะเบียนพาณิชย์ หรือเอกสารประกอบการดำเนินธุรกิจ

/

3. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น

/

/

4. สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับ หรือตราสารการจัดตั้ง

/

/

5. สำเนาบัตรประชาชน / ทะเบียนบ้าน และสำเนาหนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล / ทะเบียนสมรส (ถ้ามี)

/

/

/

/

6. สำเนาบัญชีกระแสรายวัน/ออมทรัพย์/ฝากประจำ ย้อนหลัง 6 เดือน

/

/

/

7. สำเนางบการเงินฉบับตรวจสอบ ล่าสุด 3 ปี พร้อมหมายเหตุประกอบงบการเงิน

/

/

8. สำเนา ภงด.90/ภงด.91 ล่าสุด 3 ปี (เฉพาะกรณีผู้ขอสินเชื่อเป็นบุคคลธรรมดา)

/

/

9. สำเนาใบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)/ เอกสารการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ย้อนหลัง 12 เดือน

/

/

10. ใบเสนอราคาหรือสำเนาเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์ที่ซื้อ/ขอสินเชื่อ

/

/

11. หนังสือให้ความยินยอมในการตรวจสอบเครดิตบูโรตามเกณฑ์ของกฎหมายว่าด้วยข้อมูลเครดิต

/

/

/

/

หมายเหตุ

ธนาคารฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร

สิทธิประโยชน์

  1. เป็นการลงทุนระยะยาวซึ่งสอดคล้องกับแผนการเงินของธุรกิจ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้สินทรัพย์ประเภททุนโดยเร่งด่วน เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ และจัดหาแหล่งเงินทุนจากที่ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้กิจการสามารถผลิตสินค้าออกจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นและมีกำไรมากขึ้น

  2. เป็นแหล่งเงินทุนแหล่งใหม่แก่ธุรกิจ โดยสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนได้สูงสุดถึง 100%

  3. ไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ  เพราะไม่ต้องลงทุนด้วยเงินสดจำนวนมาก

  4. มีความยุ่งยากน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการจัดหาเงินทุนแบบอื่นๆ เพราะไม่ต้องหาหลักทรัพย์ เช่น ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มาเป็นหลักประกันเงินกู้เหมือนสินเชื่อแบบอื่นๆ เพียงแต่มีแผนการดำเนินงานหรือโครงการที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนของแหส่งที่มาของรายได้ก็สามารถทำลีสซิ่งหรือเช่าซื้อได้

  5. ค่าเช่าที่ชำระรายเดือนสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล (เฉพาะสัญญาเช่าแบบลีสซิ่ง)  ซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่าการลงทุนด้วยเงินสดหรือการกู้เงินจากธนาคาร

  6. สามารถทราบค่าผ่อนชำระในแต่ละเดือนเป็นจำนวนที่แน่นอน เพราะคำนวณอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาของสัญญาเช่า/เช่าซื้อ ทำให้ไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ช่วยให้สามารถกำหนดรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายได้จากการใช้สินทรัพย์ สามารถจัดทำงบประมาณ วางแผนเกี่ยวกับกระแสเงินสดและคำนวณต้นทุนการผลิตได้อย่างแม่นยำ

ทำไมต้อง ธนาคารยูโอบี

เนื่องจากธนาคารยูโอบี สามารถให้บริการได้หลากหลายครบวงจร เพราะนอกเหนือจากบริการสินเชื่อด้านการเช่าแบบลีสซิ่งและเช่าซื้อแล้ว ทางธนาคารยังมีบริการธุรกิจต่างประเทศ เช่น L/C, T/R รวมถึงวงเงิน Shipping Guarantee เพิ่มความอุ่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ นอกจากนี้หากท่านต้องการลงทุนขยายโรงงานหรือต้องการสภาพคล่อง ทางธนาคารยังมีสินเชื่อเพื่อธุรกิจ สินเชื่อ Factoring สินเชื่อ P/N วงเงินเบิกเกินบัญชี (OD) ให้อีกด้วย ดังนั้นหากเป็นลูกค้ากับธนาคารยูโอบี ท่านจะได้รับบริการแบบครบวงจร ในการยื่นขอสินเชื่อเพียงครั้งเดียว (One stop service)

ขั้นตอนสินเชื่อเช่าแบบลิสซิ่งและเช่าซื้อ

ใส่ความเห็น

ใส่ความเห็น